ตั้งแต่ที่ผมได้ทดลองเขียนโปรแกรมบน Android ครั้งแรกก็นานมากแล้ว หลายๆอย่างเปลี่ยนไปเร็วมาก จาก Android เวอร์ชั่น 2.3 มาตอนนี้เป็นเวอร์ชั่น 4.4 ดูตัวเลขแล้วก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย แต่ถ้านับเป็นรุ่นของ Platform API ก็คือตั้งแต่ Platform API 10 (2.3.3) มาเป็น Platform API 19 (4.4.2) ผ่านไปตั้งเกือบ 10 รุ่น ทำให้หลายๆคนก็ท้อแท้ไปเลยก็มี เพราะว่าตามไม่ทันจริงๆ สำหรับผมนั้น ขอเรียกว่าตามดูอยู่ห่างๆก็แล้วกัน พอดียังไม่ค่อยจะมีงานที่ต้องใช้ จึงยังไม่ทุ่มเทเวลาให้มันมากนัก วันนี้พอจะมีเวลา ก็เลยลองกลับมารื้อฟื้นความจำสักหน่อย แต่บังเอิญเครื่องที่ใช้อยู่ไม่ได้ลงโปรแกรมไว้ ก็เลยต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่การติดตั้งกันเลย
เครื่องที่ผมใช้เป็น Ubuntu 12.04 LTS ติดตั้ง Eclipse 3.7.2 ซึ่งเป็น Eclipse ที่มากับ Ubuntu นะครับ ผมจะเน้นใช้ Package ที่มาพร้อมกับ OS มากกว่าการดาวโหลด Eclipse มาใหม่ๆ เพราะมักจะเจอปัญหาเข้ากันไม่ได้กับ Package โน่น นั่น นี่ ทำให้เราปวดหัว แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ผมก็จะใช้ตัวใหม่นะครับ
ADT (Android Developer Tools)
Android Developer Tools หรือเรียกย่อๆว่า ADT นั้น เป็นเครื่องมือสำหรับพัฒนาโปรแกรมบน Android ซึ่งทั้งหมดจะประกอบไปด้วย
- Eclipse + ADT Plugin: Eclipse IDE ที่ติดตั้ง ADT Plugin เพื่อให้ Eclipse เชื่อมต่อกับ Tools ต่างๆของ Android ได้
- Android SDK Tools: ประกอบไปด้วยเครื่องมือต่างๆสำหรับการพัฒนา ทดสอบ และดีบั๊กโปรแกรม เช่น ตัว emulator เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้จะอยู่ในโฟลเดอร์ <ANDROID_SDK>/tools
- Android Platform Tools: ประกอบไปด้วยเครื่องมือที่ขึ้นอยู่กับแพล็ตฟอร์มสำหรับการพัฒนา ทดสอบ และดีบั๊กโปรแกรม เช่น ตัว debugger เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้จะอยู่ในโฟลเดอร์ <ANDROID_SDK>/platform-tools
- Android Platform: ประกอบไปด้วย API Library ต่างๆของ Platform แต่ละรุ่น โดยเฉพาะไฟล์ android.jar โดยเราสามารถเลือกรุ่นที่เราต้องการพัฒนามาติดตั้งไว้ได้ (แต่ควรเป็นรุ่นล่าสุด) ซึ่งจะอยู่ในโฟลเดอร์ <ANDROID_SDK>/platforms/android-<รุ่น>
- Android System Image: ประกอบไปด้วย Image ไฟล์ของ OS บนแต่ละสถาปัตยกรรม เช่น ARM หรือ x86 เป็นต้น โดยแยกเป็น Platform แต่ละรุ่น ซึ่งเราสามารถเลือกรุ่นที่เราต้องการพัฒนามาติดตั้งไว้ได้ (แต่ควรเป็นรุ่นล่าสุด) ซึ่งจะอยู่ในโฟลเดอร์ <ANDROID_SDK>/system-images/android-<รุ่น>
ทั้งหมดที่แจกแจงไปนั้นเป็นเฉพาะเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับพัฒนาเท่านั้นนะครับ แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับนักพัฒนาก็คือ คู่มือ ครับ เพราะมีคำสั่งมากมายที่เราเองก็ไม่เคยจำได้ ต้องเปิดคู่มือเป็นประจำ แต่ส่วนใหญ่เท่าที่พบเห็นมือใหม่ทั้งหลาย เมื่อติดตั้ง IDE เสร็จแล้ว ก็ไม่ค่อยจะสนใจติดตั้ง API Document กันเลย เวลาเขียนโปรแกรมก็เลยต้องเปิดบราวเซอร์ไปด้วยเขียนโปรแกรมไปด้วย จริงๆแล้ว ถ้าสามารถติดตั้งได้ เช่น มีเนื้อที่ใน HDD เหลือเฟือ ก็ควรจะติดตั้งไว้ในเครื่องด้วย จะได้ไม่ต้องต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลาที่พัฒนาโปรแกรมครับ อีกทั้งส่วนใหญ่ IDE เก่งอย่าง Eclipse จะสามารถดึงเอาคำอธิบายใน Document มาให้เราอ่านได้ทันทีที่เราพิมพ์คำสั่งที่ต้องการ จะสะดวกมากๆเลยจริงๆครับ
Setup
เมื่อเรารู้แล้วว่าเครื่องมือต่างๆที่จำเป็นจะต้องมีอะไรบ้าง ต่อไปก็ถึงขั้นตอนการติดตั้ง ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพราะ Google ได้จัดทำ package สำเร็จรูปไว้แล้ว ผมจึงขอแยกวิธีการติดตั้งออกเป็น 3 วิธีนะครับ
- Bundle: เป็น package ที่มีทุกอย่างทั้ง Eclipse และ SDK ครบถ้วน บีบอัดไว้อยู่ในไฟล์เดียว สามารถดาวโหลดมาแล้วแตกไฟล์ออกมา และใช้งานได้เลยทันที โดยเข้าไปที่โฟลเดอร์ eclipse แล้วรันโปรแกรม eclipse เท่านี้ก็พัฒนาโปรแกรมได้เลย ทำให้สะดวกใช้มาก แต่ก็มีข้อเสียคือ เราแทบจะไม่รู้อะไรเลย
- Existing IDE: หากเรามี Eclipse อยู่แล้ว ก็สามารถติดตั้งทุกอย่างลงใน Eclipse ที่มีอยู่ได้เลย เพราะ Eclipse ออกแบบมาให้สามารถเพิ่มเติมความสามารถต่างๆได้ด้วย plugin ทำให้เราไม่ต้องมี Eclipse อยู่ถึงสองตัวในเครื่องเดียว ส่วนวิธีการนั้น จะขออธิบายในหัวข้อถัดไปนะครับ
- Android Studio: เป็น package แบบใหม่ที่คล้ายกับ Bundle คือมีทุกอย่างครบถ้วนใน package เดียว เพียงแต่ใช้กับ IntelliJ IDEA ซึ่งเป็น IDE ของ JetBrains ใครชอบ IDE ตัวนี้ก็สามารถดาวโหลดมาทดลองใช้ได้เลยนะครับ จริงๆแล้วผมเองไม่ค่อยประทับใจ Eclipse มากสักเท่าไรครับ ภาพข้างล่างนี้คือหน้าตาของ Android Studio แต่ผมยังไม่มีเวลาทดลองใช้ แค่รันดูเฉยๆครับ
Existing IDE Setup
หากมี Eclipse อยู่แล้ว (ซึ่งผมต้องการใช้ Eclipse ที่มีมากับ Ubuntu ตามที่ได้เกริ่นไว้) ขั้นตอนแรกเลยก็คือการติดตั้ง ADT Plugin ซึ่งจะเป็นตัวเชื่อมทุกอย่างเข้ากับ Eclipse โดยเราสามารถเลือกเมนู Help/Install New Software ใน Eclipse จากนั้นกดปุ่ม Add เพื่อเพิ่ม Repository โดยอาจจะตั้งชื่อว่า ADT Plugin และป้อน URL ดังนี้
https://dl-ssl.google.com/android/eclipse/
เมื่อติดตั้ง Plugin เสร็จแล้ว restart Eclipse จะปรากฎหน้าต่าง "Welcome to Android Development" และให้เราป้อนโฟลเดอร์ของ Android SDK ซึ่งมีสองทางเลือก คือ ป้อนโฟลเดอร์ใหม่ โดยจะดาวโหลด Android SDK มาติดตั้ง หรือ เลือกโฟลเดอร์ที่เราได้แตกไฟล์ Android SDK ที่ดาวโหลดมาไว้แล้ว ในกรณีนี้ ผมยังไม่เคยแนะนำให้ดาวโหลด Android SDK มาก่อน จึงเลือกที่จะป้อนโฟลเดอร์ใหม่ให้ดาวโหลดมาติดตั้ง ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จ จะปรากฎหน้าต่าง Android SDK Manager ดังภาพ
![]() |
Android SDK Manager |
ใน Android SDK Manager นี้ เราสามารถเลือกที่จะติดตั้ง Tools และ Platform ต่างๆได้ โดย Tools ที่จะต้องติดตั้งหลักๆก็คือ SDK Platform และ Build ส่วน Platform API ให้เลือกรุ่นที่ตรงกับอุปกรณ์เป้าหมายที่โปรแกรมของเราจะนำไปติดตั้ง สามารถเลือกติดตั้งไว้หลายๆรุ่นก็ได้ แล้วเลือกใช้อีกทีตอนพัฒนาโปรแกรมนะครับ เมื่อเลือกเสร็จแล้ว กดปุ่ม Install จะมีการติดตั้งส่วนอื่นๆที่จำเป็นร่วมด้วย สังเกตุให้ดีว่า เราได้ติดตั้งทุกอย่างครบถ้วนแล้วนะครับ ที่สำคัญ อย่าลืมเลือกติดตั้ง Documentation ด้วยนะครับ
ผมขอจบเรื่องไว้เท่านี้ก่อนนะครับ เรื่องการพัฒนาโปรแกรมบน Android ไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าต่อว่า ผมจะทำอะไรบ้าง